ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้ windows

ซอฟต์แวร์และปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้งาน windows
   ซอฟต์แวร์ (Software)  คือ โปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ที่จะสั่งและควบคุมให้ฮาร์ดแวร็คอมพิวเตอร์ทำงาน เราไม่สามารถจับต้อง ซอฟต์แวร์ ได้โดยตรงเหมือนกับตัวฮาร์ดแวร์ เพราะซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมนี้จะถูกจัดเก็บอยู่ในสื่อ ที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล เช่น แผ่นดิสก์ ซอฟต์แวร์ ที่มักติดตั้งไว้ในฮาร์ดดิสก์เพื่อทำงานทันที่ที่เปิดเครื่องคือ ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ สรุปแล้ว ซอฟต์แวร์ คือ โปรแกรมชุดคำสั่งไว้ควบคมคอมฯให้ทำงาน

 

ซอฟต์แวร์

ชนิดของซอฟต์แวร์
1.  ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) คือโปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมระบบการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น การบูตเครื่อง การสำเนาข้อมูล การจัดการระบบของดิสก์ ชุดคำสั่งที่เขียนเป็นคำสั่งสำเร็จรูปโดยผู้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลิต การทำงานหรือการประมวลผลของซอฟต์แวร์เหล่านี้ขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ ละเครื่องระบบของซอฟต์แวร์เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อการปฏิบัติควบคุม และมีความสามารถในการยืดหยุ่นการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทคือ

– โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็น โปรแกรมที่ใช้ควบคุมและติดต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดิสก์ การบริหารหน่วยความจำของระบบ กล่าวโดยสรุปคือ หากจะทำงานใดงานหนึ่งโดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการทำงานแล้วจะต้อง ติดต่อกับซอฟต์แวร์ระบบก่อน ถ้าขาดซอฟต์แวร์ชนิดนี้จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้ ตัวอย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ DOS Unix Windows (เวอร์ชั่นต่าง ๆ เช่น 95 98 me 2000 NT) Sun OS/2 Warp Netware และ Linux
ซอฟต์แวร์ระบบ

– ตัวแปลภาษาจาก (Source Code) ให้ เป็น Object Code (แปลจากภาษาที่มนุษย์ใจให้เป็นภาษาที่เครื่องเข้าใจ เปรียบเสมือนล่ามแปลภาษา) เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการแปลภาษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอร์พรีเตอร์ (Interpreter) คอมไพเลอร์จะแปลคำสั่งในโปรแกรมทั้งหมดก่อนแล้วทำการลิ้ง (Link) เพื่อให้ได้คำส่งที่เครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคำสั่งแล้วทำงานตามประโยคคำสั่งนั้น การจะเลือกใช้ตัวแปลภาษาแบบใดนั้นจะขึ้นอยู่กับภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น ภาษาเบสิก (Basic) ภาษาปาสคาล (Pascal) ภาษาซี (C) ภาษาจาวา (Java) ภาษาโคบอล (Cobol) ภาษา SQL ภาษา HTML เป็นต้น

software

– ยูทิลิตี้โปรแกรม (Utility Program) คือ ซอฟต์แวร์เสริมช่วยให้เครื่องทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลในดิสก์ ช่วยสำเนาข้อมูล ช่วยซ่อมอาการชำรุดของดิสก์ ช่วยค้นหาและกำจัดไวรัส ฯลฯ เป็นต้น โปรแกรมในกลุ่มนี้ได้แก่โปรแกรม Norton WinZip Scan virus Sidekick Scandisk Screen Saver ฯลฯ เป็นต้น

– ติดตั้งและปรับปรุงระบบ (Diagonostic Program) เป็น ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการติดตั้งระบบเพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งาน อุปกรณ์ต่า ๆ ที่นำมาติดตั้งระบบ ได้แก่ โปรแกรม Setup และ Driver ต่าง ๆ เช่น โปรแกรม Setup Windows Setup Microsoft Office โปรแกรม Driver Sound Driver CD-ROM Driver Printer Driver Scanner ฯลฯ เป็นต้น

2.  ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software) เป็น ซอฟต์แวร์ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้งานเฉพาะด้านหรือเฉพาะองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ซอฟต์แวร์ประเภทนี้มักสร้างขึ้นโดยบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ที่มีความชำนาญ ด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะ หรือออกแบบและสร้างโดยบุคลากรในฝ่ายคอมพิวเตอร์ขององค์กรก็ได้ ต้องมีทีมงานในการดำเนินการวิเคราะห์และออกแบบระบบงานอย่างรอบคอบ เมื่อออบแบบระบบงานใหม่ได้แล้ว จึงลงมือสร้างโปรแกรมจนเสร็จ แล้วทำงการทดสอบโปรแกรมให้สามารถทำงานได้ถูกต้องแน่นอน จนสามารถทำงานได้จริง ตัวอย่างซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ ซอฟต์แวร์ด้านงานบุคลากร ซอฟต์แวร์ระบบงานบัญชี ซอฟต์แวร์ระบบสินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ของการรถไฟ ซอฟต์แวร์ของธุรกิจธนาคาร ซอฟต์แวร์ของธุรกิจประกันภัย ซอฟต์แวร์ของการบินไทย ซอฟต์แวร์บริหารการศึกษาเป็นต้น

3.  โปรแกรมสำเร็จรูป (Package Software) คือ ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ในสำนักงานทั่ว ๆ ไป สร้างโดยบริษัทที่มีความชำนาญในด้านนั้น ๆ โดยเฉพาะมีการปรับปรุงรุ่น (Version) ของซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธภาพสูงขึ้นอยู่เสมอ สามารถแบ่งออกเป็นประเภท ตามลักษณะหน้าที่การทำงานได้ดังนี้คือ

– โปรแกรมประมวลผลคำ ใช้สำหรับพิมพ์เอกสารรายงานหรือสร้างตารางแบบต่าง ๆ
– โปรแกรมตารางงาน ใช้สำหรับคำนวณ สร้างกราฟ และจัดการด้านฐานข้อมูล
– โปรแกรมนำเสนอผลงาน ใช้ในการนำเสนอผลงานและนำเสนอข้อมูลในรูแปบบสไลด
– โปรแกรมจัดการฐานข้อมูล คือ โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการจัดการฐานข้อมูล
– โปรแกรมเว็บเพจ ใช้ในการเขียนเว็บเพจเพื่อใช้งานในเว็บไซต์ของอินเทอร์เน็ต
– โปรแกรมสื่อสารระยะไกล ใช้ในการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต
– โปรแกรมเขียนแบบ ใช้ในการออกแบบและเขียนแบบด้านต่าง ๆ เช่น ชิ้นงาน อาคาร
– โปรแกรมการฟิกส์ ใช้ในการสร้างและจัดการรูปภาพในคอมพิวเตอร์
– โปรแกรมเพื่อความบันเทิง ได้แก่ เกมส์ ภาพยนต์และเสียงเพลงต่าง ๆ

ปัญหาที่ทำให้ Windows หยุดทำงาน
ปัญหาที่เกิดจากการใช้โปรแกรมรุ่นเก่า ปัญหาที่เกิดจากการใช้โปรแกรมที่ชำรุด ปัญหาของการสะสมของไฟล์ชั่วคราว(Temp File) Temp files ที่เป็นไฟล์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Windows   หรือโปรแกรมต่าง ๆ ไม่ได้เกิดจากผู้ใช้  เมื่อเราใช้เครื่องของเราไปสักระยะหนึ่ง จะกินพื้นที่ฮาร์ดดิส ของเราไป  และในบางกรณีจะใช้พื้นที่มากเกินความจำเป็น ทำให้เราต้องหาทางจัดการล้างไฟล์เหล่านั้นทิ้ง การทำงานของ Temp File Windows จัดการปัญหาด้านหน่วยความจำ โดยย้ายข้อมูลบางส่วนในหน่วยความจำที่กำลังเต็มไปไว้ในฮาร์ดดิสเป็นการชั่ว คราว  ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกบันทึกไว้เป็นไฟล์ข้อมูลชั่วคราวที่มีชื่อว่า “Temp File” ซึ่งจะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อ Windows ไม่ต้องการใช้ อย่างไรก็ตาม หากโปรแกรมที่เราใช้ทำงานผิดพลาด หรือWindows เกิดความผิดพลาด การลบ Temp File โดยอัตโนมัติ อาจไม่เกิดขึ้น ทำให้ Temp File ที่ไม่ใช้แล้วเกิดสะสมในฮาร์ดดิส วิธีเข้าไปลบ ให้ไปที่ Start > เลือกช่อง run >พิมพ์ %temp% แล้วกด Entertemp

วิธีแก้ไขปัญหาการ สะสมของไฟล์ชั่วคราว คือ ผู้ใช้ควรหมั่นตรวจสอบ และลบ Temp File ในฮาร์ดดิส ซึ่งWindows จะเก็บไว้ในโฟลเดอร์ Temp  ภายใต้โฟลเดอร์ Windows  เราสามารถลบ Temp File นี้ได้ แต่อาจมีบาง Temp File ที่ Windows ยังใช้อยู่  วิธีที่ดีกว่าคือ ให้ใช้โปรแกรม Disk Cleanup มากำจัดไฟล์ขยะเหล่านี้

ขั้นตอนการทำ Disk Cleanup
1. คลิกปุ่ม Start เลือก Programs > Accessories > System Tools > Disk Cleanup
2. เลือก Drives ที่ต้องการลบไฟล์13. คลิก OK โปรแกรมจะแสดงประเภท และจำนวนของ file ขยะที่สามารถลบได้

tem4. คลิกเครื่องหมายถูกในช่องประเภทของ file ที่ต้องการลบ
5. คลิก OK เพื่อยืนยันการลบ

รายละเอียดแต่ละไฟล์
– Downloaded Program File : ไฟล์ข้อมูลที่โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต
– Temporary Internet Files : ไฟล์ชั่วคราวที่อยูู่ในส่วนที่เป็นแคช ที่เก็บข้อมูลชั่วคราวของ Internet Explorer
– Offline Webpages : ไฟล์ที่บันทึกไว้เพื่อชมเวลาไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
– Hibernation File Cleaner : ไฟล์ที่เก็บสถานะเครื่องไว้ เมื่อเราปิดเครื่องเข้าสู่สถานะ Hibernate
– Recycle bin : ไฟล์ที่เราสั่งลบแต่ข้อมูลยังอยู่ใน Recycle bin
– Setup log File : ไฟล์รายงานการติดตั้งของ Windows และโปรแกรมต่างๆ ที่ระบบบันทึกไว้
– Temporary  Files : ไฟล์ชั่วคราวนามสกุล .tmp ที่ Windows สร้างใช้พักข้อมูล
– Thumbnails : ไฟล์ชั่วคราวที่ระบบสร้างขึ้นเพื่อแสดงภาพขนาดเล็ก
– Windows Error Reports : ไฟล์ข้อมูลที่ Windows ทำการบันทึกเกี่ยวกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน โดยแยกเป็นของผู้ใช้ และของระบบ

ปัญหาที่เกิดจากข้อผิดพลาดใน Windows
ผู้ ใช้ Windowsอาจยังพบข้อผิดพลาดในการทำงาน และจุดบกพร่องในโปรแกรม ทางไมโครซอฟต์จะออกโปรแกรมสำหรับติดตั้งแก้ไขข้อบกพร่อง และเพิ่มเติมในส่วนใหม่ให้กับ Windows ที่มีชื่อเรียกว่า “Patch” ซึ่งเราสามารถติดตั้งในเครื่องของเรา วิธีหา Patch ที่ง่ายที่สุดนั้นทำได้โดยใช้ “Windows Update”ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบริษัทไมโครซอฟท์โดยตรง นอกจาก Pacth  เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องใน Windows ทางไมโครซอฟท์จะออก Windows รุ่นที่มีการแก้ไขข้อบกพร่องและเพิ่มคุณสมบัติใหม่เข้าไป เพราะหากมีตัวแก้ไข Windows ออกมา หรือที่เรียกกันว่า “Service Pack” เราควรหามาติดตั้งไว้เป็นดีที่สุด เพราะจะช่วยให้การทำงานของเราราบรื่น และพบปัญหาน้อยที่สุดservice_pack_3อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ทำงานผิดพลาด บาง ครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Windows อาจถึงขั้นที่ไม่สามารถเข้าสู่ Windows ได้เลย ปัญหาแนวนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ หรือโปรแกรมที่สนับสนุนการทำงานของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เรียกกันว่า ” ไดรเวอร์ “ ผิดพลาด เช่น เราติดตั้งไดรเวอร์สำหรับระบบแสดงผลตัวใหม่ที่ใช้ไม่ได้กับรุ่นที่เราใช้ อยู่  หลังจากการติดตั้ง Windows จะรีสตาร์ทเพื่อนำค่าที่กำหนดใหม่มาใช้ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาทันที เช่น เกิดการแฮงค์ของเครื่องขึ้นมาเฉยๆ ปัญหาที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์

      ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการ ใช้งาน Windows และปัจจุบันนั้นไวรัสได้พัฒนาตัวเองขึ้นมามาก  สามารถเพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งอย่างรวด เร็ว ไม่ว่าจะแพร่กระจายผ่าน Flash Drive , แผ่นซีดีรอม , ระบบเน็ตเวิร์ค หรืออินเทอร์เน็ตก็ตาม

ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer virus) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ไวรัส คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่พยายามเข้าไปอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก ผู้ใช้  แพร่พันธุ์โดยการเกาะติดกับโปรแกรมใช้งาน เช่น โปรแกรม Word และติดกับไฟล์ข้อมูล จนถึงขั้นแฝงตัวเข้าไปใน Windows ไวรัสคอมพิวเตอร์ไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง  แต่เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นโดยนักคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเล่นสนุกหรือจง ใจสร้างปัญหาให้กับผู้ใช้อื่นๆ   โดยลักษณะของไวรัสทุกตัว คือการเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำของเครื่อง พยายามแพร่พันธุ์ทาง Flash Drive หรือผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในองค์กรและอินเทอร์เน็ต
     การแก้ไขปัญหาจากการใช้โปรแกรมรุ่นเก่า
Windows 7 ได้เตรียมเครื่องมือ Program Compatibility สำหรับทำงานร่วมกับ Windows xp ซึ่งโปรแกรมรุ่นเก่าไม่สามารถ run บน Windows 7 ได้

ขั้นตอนการเปลี่ยนโหมด0111.คลิ๊กขวาที่ icon ของโปรแกรม
2.คลิ๊ก แท็บ Compatibility
3.ในช่อง Compatibility mode เช็คถูกหน้าข้อความ Run this program in  Compatibility mode for
4.จากนั้นเลือกโหลด Windows ที่เคยใช้งานได้ดี
5.คลิ๊ก OK 
    การแก้ไขปัญหาเครื่องแฮงค์จากการใช้โปรแกรมที่ชำรุดอา การเครื่องแฮงค์นั้นถือเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย  ซึ่งถ้ากรณีที่เครื่องแฮงค์จากการใช้งานโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง เราสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ โดยสิ่งที่ควรทำก่อนคือ สั่งให้  Windows ทำการปิดโปรแกรมที่เสียหายนั้นก่อน โดยการกดคีย์ <Ctrl>+<Alt>+<Del> จากนั้นเลือก Task Manager เพื่อเปิดหน้าต่างนี้ขึ้นมา016

การแก้ไขปัญหาจากข้อผิดพลาดของ Windows
การ พัฒนาโปรแกรมใดๆ จะมีความผิดพลาด หรือไม่สมบูรณ์สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ทางบริษัทไมโครซอฟต์ได้พยายามแก้ไข โดยบริการให้ผู้ใช้ Windows สามารถทำการอัพเดทปรับปรุงข้อผิดพลาดของ Windows ผ่านอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้ Windows update ดังนี้

017     คลิ๊ก Start > Control Panal > System and Security > เลือก Windows Update > Check for update

การแก้ไขปัญหาจากฮาร์ดแวร์ทำงานผิดพลาดใน Windows Xp
ปัญหา ฮาร์ดแวร์ทำงานผิดพลาดนั้นส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับไดรเวอร์ที่ผิดพลาด วิธีแก้ปัญหาก็คือ เข้า Safe mode แล้วทำการ ลบไดรเวอร์ที่ผิดพลาดออก แล้วทำการติดตั้งไดรเวอร์ตัวใหม่

019020
วิธีการเข้าสู่ Safe mode
1. เมื่อเปิดเครื่อง หรือรีบูตเครื่อง ให้กดปุ่ม F8
2. เลือก Safe mode
3. กด Yes
4. เมื่อเข้าสู่ Safe mode ซึ่งจะเป็นขั้นพื้นฐานที่สุดของ Windows ซึ่งจะไม่ใช้ไดรเวอร์ที่เราติดตั้งผิด จึงไม่เกิดการแฮงค์ ซึ่งเราสามารถเข้าไปแก้ไข ย้อนกลับ หรือลบไดรเวอร์ออกได้
5. ในหน้าต่าง System Properties ให้คลิ๊กแท็บ Hardware > Device manager
6. ที่หน้าต่าง Device manager ให้เราเลือกตัวที่จะลบ โดยคลิ๊กขวา > Properties
7. หน้าต่างการปรับแต่งไดรเวอร์ของฮาร์ดแวรืที่เราเลือก

  แหล่งที่มา:http://www.dekdev.com/%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C-software-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-2662012/

ใส่ความเห็น